วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2550

"วอนรักกล่อมโลกสิ้นโศกเถิด…"



ขอรักจงงดงาม
ขอความทรมานจงสิ้นสุด
ทำร้ายกันอีกเท่าไรหรือมนุษย์
ท้ายที่สุดไม่เหลือแม้ลมหายใจ

ด้วยหวัง – ยังหวัง
รักจะฝ่ากำแพงชังแห่งโลกร้าย
ทลายหมอกมายาเบิกฟ้าพราย
ให้ดวงใจต่อดวงใจได้พานพบ

เปลวระเบิด - ควันปืนให้กลืนหาย
คลั่ง - แค้น - ทุรนรายได้สงบ
รังเกียจเดียดฉันท์ - กรุ่นควันรบ
ให้ได้พบ - ได้พัก ณ รักนั้น


วอนรักกล่อมโลกสิ้นโศกเถิด…
ทลายลงเสียเถิดกำแพงกั้น
นิ่งเสียเถิดกี่ร่ำไห้มานานครัน
เถิดรัก เถิดพลัน! …หวังวอน



"วอนรักกล่อมโลกสิ้นโศกเถิด…"
(กรกฎาคม 2546)

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550

"คะนึง..." (2)



ครั้งหนึ่ง… เคยจุดประกายฝัน
เป็นแรงใจให้ฝ่าฟันได้ทุกสิ่ง
เคยจับต้องได้ - เคยเป็นจริง
เคยคล้ายโลกจะหยุดนิ่งอยู่เช่นนั้น…

เพียงมือน้อยเช็ดหยาดน้ำตาหม่นเศร้า
ก็ละลายทุกรวดร้าว-หนาวสั่น
เพียงยิ้มเยือนก็เลือนหายทุกแอกอัน
ก็ช่วงโชนทุกไฟฝัน -- ..เพียงนั้นแล้ว



เผลออาวรณ์บ้างไหมในวันผ่าน
คล้ายบทเพลงแห่งวันวานยังหวานแว่ว
ณ วันคืนห่างไกลเลือนไร้แวว
คล้ายยินเสียงกระซิบแผ่วมาแสนไกล…

เพียงห้วงคิดถึง – คะนึงหา…
ไม่คิดย้อนวันเวลาหวนคว้าไขว่
คือโลก คือชีวิต ต้องเป็นไป
หลากวิถีหลากเงื่อนไขให้จำลา

เพียงห้วงคิดถึง - คะนึงหวน
แล้วอุ่นไอก็อายอวลก็พร่างพร่า
ฤดูกาลผันเปลี่ยนเวียนเวลา
ทุกรอยยิ้มรอยน้ำตา -- สูงค่าแล้ว…



"คะนึง..." (2)
(เมษายน 2547)